สารสกัดจากอ้อยดำ ธรรมชาติ 100%
- ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย
- ลดการอักเสบของสิว
- เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า
- ทำให้หน้าแลดูอวบอิ่ม
สำหรับผู้ที่ต้องการด้านสุขภาพ
- ลดเบาหวาน
- ลดความดัน
- ผู้ป่วยโรคไต
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
- แผลอักเสบ ฯ
***ส่วนใจสอบถามของมูลเพิ่มเติมได้ที่***
08-1558-1828
08-7678-2219
Wave Nano Sweet คือ ?
“Wave Nano Sweet” สกัดจากอ้อยดำซึ่งอ้อยดำถือเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่มีประโยชน์ในการแพทย์เป็นอย่างมากโดยมีสรรพคุณในการบำรุงและรักษาถือว่า เป็นยาอายุวรรณประเภทหนึ่งซึ่งโดยทั่วๆไป มีวิธีการใช้คือการ คั้นน้ำหรือต้มเพื่อรับประทานเป็นยาประเภทหนึ่ง ซึ่งน้ำตาลนาโน “Wave Nano Sweet” มีวิธีการสกัดด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงระดับนาโนเทคโนโลยี โดยการสกัดให้เหลือไว้เพียงความหวานเท่านั้นและมีความเข้มข้นสูงถึง 600 เท่า “Wave Nano Sweet” ผลิตจากธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมีและสารปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น “Wave Nano Sweet” มีโมเลกุลในระดับนาโน ที่สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ทันที
หวาน ... เพื่อสุขภาพ
ในชีวิตประจำวันเราปฏิเสธเครื่องน้ำตาลไม่ได้ ซึ่งน้ำตาลนั้นมีอยู่ในส่วนผสมของอาหารทุกชนิดที่เรารับรับประทานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ขนมต่างๆ อาหาร ฯลฯ ซึ่งโดยทั่วๆไปไม่รู้เลยว่านั้นตาลนั้นมีโทษกับร่างกายของเรา อาทิ ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคไต กระดูกพรุน ปวดหัว เนื้องอก โรคมะเร็ง ภูมิแพ้ ปวดหัว ผิวหนังแห้ง เหี่ยวย่น ปวดหัว ไมเกรน …. ดังนั้น “Wave Nano” ถูกคิดค้นและวิจัยจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากน้ำตาล และตอบสนองสุขภาพของผู้บริโภค
- ไม่
มียาชนิดใดในโลกนี้ สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ทั้งหมด
ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ทุกคนใช้แล้วได้ผลดีเหมือนกันหมด
และไม่มีหมอคนไหนสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคได้หมดทุกคนเช่นกัน
- ยาส่วนมากจะมีผลค้างเคียง ควรลดใช้ยาให้น้อยลง
- น้ำตาลทรายและนมข้นหวานมีผลเสียต่อสุขภาพ บริโภคเป็นระยะยาวจะทำให้เกิดโรคได้หลายอย่าง ควรงดรับประทาน
- น้ำตาล
นาโนผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง สกัดจากอ้อยดำโดยปราศจากน้ำตาล
เหลือไว้เพียงความหวานและมีความเข้มข้น 600 เท่า จากน้ำอ้อยปกติธรรมชาติ
100% ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและสารอื่นๆ
- น้ำตาล
นาโนคือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนน้ำตาล เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยในครอบครัว
รวมทั้งทารกแรกเกิดและไม่จำกัดเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่บริโภคได้
สัตว์เลี้ยงก็ใช้ได้เช่นกัน
- น้ำตาล
นาโน หากใช้ภายนอกมีสรรพคุณด้านการฆ่าเชื้อโรค แก้แผลเน่าเปื่อย
ต้านออกซิเดชันมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบขับสารพิษ
และช่วยสุขภาพผิวให้ขาวสวยตึงกระชับ
- ผู้ป่วยที่ทานยารักษาโรคอยู่ไม่ควรเลิกใช้ยาทันที หากอาการทุเลาและดีขึ้นแล้วให้แพทย์เป็นผู้ตัดสินลดปริมาณยา
วิธีการใช้ Wave Nano Sweet ..
- ผู้ใช้อายุมากกว่า 12 ปี วันละไม่ต่ำกว่า 10 หยด อายุต่ำกว่า 12 ลดปริมาณลงมาครึ่งหนึ่ง
- วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ครั้งละ 2 – 3 หยด ใต้ลิ้นอมไว้ประมาณ 1 นาที ค่อยดื่มน้ำตามนอกจากนั้นทุกครั้งที่ดื่มน้ำ ให้หยด Wave Nano Sweet 1 – 2 หยด แล้วค่อยดื่ม
- คนชราและผู้ที่อาการป่วยหนักให้เพิ่มปริมาณการใช้ Wave Nano Sweet เป็นสองเท่า
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคไต ไมเกรน และปัสสาวะเป็นกรดมาก ช่วงแรกให้หยดในแก้วน้ำครั้งละ 1 หยด โดยดื่มอย่างน้อยละวันละ 5 – 6 ครั้ง
- ผู้ป่วยที่กำลังฟอกไตอยู่ ช่วงแรกให้หยดใต้ลิ้นครั้งละ 1 หยด อมไว้ประมาณหนึ่งนาทีแล้วค่อยดื่มน้ำตามนิดหน่อยห้ามดื่มน้ำเยอะ หยดวันละ 5 – 6 ครั้ง
- สำหรับแผลสด แผลเปื่อย แผลอักเสบ และโรคผิวหนังต่าง ๆ นอกจากหยดใส่น้ำดื่มแล้วให้ผสมน้ำแล้วฉีดพ่น (น้ำ 50 ซีซี ผสม Wave Nano Sweet 30 หยด)
- อาหารเป็นพิษ ท้องร่วงและอาเจียนไม่หยุดทุกๆ หนึ่งชั่วโมงให้หยดใต้ลิ้น 5 – 6 หยด แล้วตามด้วยดื่มน้ำอุ่นนิดหนึ่งทำซ้ำ 5 – 6 ครั้ง อาการจะดีขึ้น
- เป็นหวัด ตัวร้อน ให้หยดใต้ลิ้นชั่วโมงละ 5 – 6 หยด และให้ดื่มน้ำเยอะๆ ทำซ้ำ 5 – 6 ครั้ง อาการจะดีขึ้น
- คนอ้วนหรือผู้ที่ลงพุง ให้หยดใต้ลิ้นเช้าเย็นครั้งละ 3 หยด และก่อนอาหารให้หยด 2 – 3 หยดในแก้วน้ำดื่มให้หมดแล้วค่อยทานอาหาร จะเห็นผลในไม่ช้า
- ตามัวที่เกิดจากโรคเบาหวานและโรคต้อกระจก นอกจากดื่มกินแล้ว ให้หยด Wave Nano Sweet เข้าตา วันละ 2 – 3 ครั้ง
- โรคตาแดง คันตา ตาพร่ามัว เป็นสิว ปวดเมื่อยตามข้อ ผิวหนังอักเสบ คันตามร่างกาย ริดสีดวง อาการคันตามบริเวณอวัยวะเพศหญิง ผดผื่นแดงเด็กทารกให้ผสมน้ำแล้วฉีดพ่น วันละ 3 – 5 ครั้ง
- น้ำร้อนลวก ให้ผสมน้ำฉีดพ่นทันที จะไม่พองเป็นตุ่มน้ำใส บรรเทาอาการปวด หายเป็นปกติอย่างเร็วอาการปวดฟัน แผลในปาก เหงือกบวมอักเสบ ให้หยดใส่บนแผล อมไว้ 2 – 3 นาที อาการจะดีขึ้น
- โรคอักเสบในหู เป็นหนอง โรคไซนัส นอกจากดื่มกินแล้ว ให้หยดเข้าไปในหูหรือจมูก
- แมลงสัตว์หรือผึ้งกัดต่อยให้หยดใต้ลิ้น 5 – 6 หยด ใต้ลิ้นและหยดใส่แผลโดยตรง อาการจะดีขึ้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น